ก้าวสู่ความสำเร็จกับ #TEDFund : “ฮอร์แกไนซ์” ระบบบริหารจัดการหอพัก ที่มีจุดเริ่มต้นจากการแก้ปัญหาของครอบครัว สู่การเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยยกระดับชีวิตของผู้เช่าและผู้ให้เช่า

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจหอพักในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยจำนวนนักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นธุรกิจหอพักจึงเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีผู้คนสนใจมากมาย แต่ยิ่งผู้เช่าหอพักมีจำนวนเยอะมากยิ่งขึ้น ผู้ให้เช่าก็ต้องใช้เวลาและทีมงานในการจัดการเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งการทำสัญญา การเก็บค่าเช่า การรับเรื่องต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น

คุณธนวิชญ์ ต้นกันยา หนึ่งในผู้ที่มีครอบครัวดำเนินธุรกิจหอพัก จึงได้เริ่มคิดค้นหาทางออกและเครื่องมือในการบริหารจัดการภาระงานต่าง ๆ ดังกล่าว เพื่อลดภาระที่หนักอึ้งของธุรกิจหอพัก ให้กลายเป็นงานที่อยู่ที่ไหนก็สามารถจัดการได้ผ่านแพลตฟอร์ม “ฮอร์แกไนซ์”ฮอร์แกไนซ์คืออะไร?

‘ฮอร์แกไนซ์’ เป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปล่อยเช่า ทั้งหอพัก อพาร์ทเม้น หรือตลาดที่มีแผงค้าปล่อยเช่าครับ โดยจะเป็นแพลตฟอร์มหลังบ้านที่ช่วยจัดการ ไม่ว่าจะเป็นการทำสัญญาเช่าการออกใบแจ้งหนี้ค่าเช่าการเก็บค่าเช่า การรับแจ้งเรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องแจ้งซ่อม แจ้งความสะอาด จดมิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟในแต่ละเดือน รวมถึงการวางใบแจ้งหนี้เก็บค่าเช่าพร้อมระบบเก็บค่าเช่า โดยเมื่อมีการจ่ายเงินเข้ามาก็จะมีระบบตรวจสอบการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วก็ทำรีพอร์ตให้กับเจ้าของ โดยใช้ได้ทั้งฝั่งเจ้าของ และผู้เช่าครับ นั่นคือทางฝั่งของผู้เช่าก็จะได้รับใบแจ้งชำระค่าเช่า ชำระเงิน แจ้งซ่อมแจ้งขอใบคำร้องต่าง ๆ และดูรีพอร์ตการจ่ายชำระเงินค่าเช่าผ่านแอปพลิเคชั่น ซึ่งมีฟังก์ชันเสริม คือถ้าจ่ายเงินตรงเวลา ก็จะได้คะแนนสะสมสำหรับนำไปใช้แลกบริการพิเศษต่าง ๆ เช่น แพ็คเกจนวด ทำความสะอาดบ้าน เป็นต้นครับ”

จุดเริ่มต้นของฮอร์แกไนซ์

“ตอนที่เริ่มต้นผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ แล้วตอนนั้น คุณแม่ของผมมีหอพักอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก โดยทุก ๆ สิ้นเดือน แม่ก็จะให้ผมช่วยจัดการเรื่องเอกสารต่าง ๆ เพื่อนำไปจดคำนวณมือต่อ เพื่อที่แม่จะได้ส่งใบแจ้งค่าเช่า เดินวางทีละห้องและก็ต้องนั่งรอเก็บค่าเช่าในแต่ละเดือน จนมีวันนึง เอกสารที่ผมทำไว้หมดครับ แม่ก็จะให้ผมทำให้แแล้วส่งจากเชียงใหม่ไปพิษณุโลก ผมเลยรู้สึกว่าการเก็บค่าเช่า เป็นงานที่ต้องไปนั่งอยู่กับที่ตลอดเวลา ไปไหนไม่ได้ ผมก็เลยคิดว่าจะทำยังไงให้เราสามารถบริหารจัดการหอพักแบบไม่ต้องไปนั่งอยู่ทั้งวัน แล้วยังสามารถบริหารจัดการและให้บริการได้ ก็เลยมาลองคิดค้นระบบขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาธุรกิจของครอบครัวก่อน หลังจากนั้นก็นำมาต่อยอดครับ

ช่วงแรกมีพบเจอปัญหาอะไรบ้างไหม?

“ในช่วงแรก ผมก็เดินไปตามหอพักต่าง ๆ เพื่อนำเสนอเขา แล้วก็โดนด่าทุกวันเลยว่าไม่มีใครใช้หรอกมันเป็นเทคโนโลยีที่มันใหม่มากเกินไป มันเป็นเทคโนโลยีไม่น่าตอบโจทย์ อะไรแบบนี้ครับ เจออยู่ประมาณ 2 เดือน จนผมก็ได้เจอกับหอพักที่แรกที่ยินดีให้เรานำระบบไปทดลองใช้ แต่ยังไม่จ่ายตังค์นะครับ คือทดลองไปออกแบบระบบร่วมกับเราเพื่อพัฒนาให้ระบบมันเวิร์คครับ พอเขานำไปใช้แล้วมันแก้ปัญหาให้เขาได้จริง ๆ เขาก็บอกต่อเพื่อนฝูงในแวดวงหอพักครับ จนมีมาใช้บริการแพลตฟอร์มของเราอีกประมาณ 10 หอพักครับเฟสแรกสุดคือตอนเราที่เราคิดว่าเราอยากทำให้มันดีครับ เราก็เชื่อว่าของเรามันต้องดีแต่พอเราทำออกมาแล้วมันไม่เวิร์คเนี่ย ผมก็คิดว่าตอนแรกผมยังไม่สร้างโปรดักต์ แต่ผมเริ่มคุยกับลูกค้าก่อน ดังนั้นมันจึงยังไม่มีต้นทุนในการสร้างโปรดักส์ ในช่วงแรกผมพยายามหาให้เจอว่าลูกค้าผมคือใคร ตอนนั้นถามว่าท้อไหม ผมคิดว่าช่วงนั้นไม่ค่อยเท่าไหร่นะ แต่มันจะเริ่มท้อหลังจากที่ผมเจอลูกค้ารายแรกที่ทดลองใช้แล้วว่าดี และได้ขยายผลอีก 10 รายแรก แต่พอไปรายที่ 11 12 13 เนี่ยเป็นช่วงที่ยากครับ แต่สิ่งที่ผมเรียนรู้คือถ้าของผมไม่ดีแสดงว่า 10 รายแรกเนี่ยจะต้องเลิกใช้ไปแล้ว แต่ 10 รายแรกที่ใช้กับผมเขาไม่เลิกใช้ แสดงว่า 10 รายเนี่ยเค้าโอเคกับโปรดักส์ แค่เรายังหาคนที่ใช่จริง ๆ กับโปรดักส์เราไม่เจอเท่านั้น ผมจึงได้แนวคิดในเชิงบวกว่า

“สมมุติผมเดินไปหาลูกค้ารายแรกแล้วผมขายด้วยวิธีที่หนึ่งแล้วลูกค้ารายนั้นบอกว่าไม่สนใจผมก็กลับมาประเมินว่าอะไรที่เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าไม่สนใจแล้วลองไปเทสกับลูกค้ารายที่สอง สาม สี่ เทสไปเรื่อย ๆ แล้วเริ่มตั้งสมมติฐานจนเราสามารถหาคนที่ใช่กับโปรดักส์เราจนเจอครับ”

จุดเปลี่ยนหลังจากมาเข้าร่วมโครงการ TED Youth Startup และ TED Market Scaling Up

“คือเวลาที่เราจะทำสิ่งใหม่ขึ้นมาอะครับ มันมีความเสี่ยง ดังนั้นการที่ TED Fund เป็นกองทุนของภาครัฐเข้ามาช่วยซัพพอร์ตเรื่องความเสี่ยง มันทำให้เรามีโอกาสที่จะเกลอัพได้มากขึ้น ของฮอร์แกไนซ์เอง ก็ได้ออกโปรดักส์ใหม่ครับ ได้ขยายตลาด ทำให้โอกาสในการเติบโตของเราเพิ่มมากขึ้นด้วยครับ”

แพลนต่อจากนี้ของฮอร์แกไนซ์

ฝากถึงชาวสตาร์ทอัพที่สนใจจะมาสมัครเข้าร่วมโครงการกับ TED Fund

“อันดับแรก ผมว่าเราต้องเเข้าใจตัวเราก่อน ว่าทุนที่เราอยากได้ จะนำไปทำอะไรบ้าง และต้องคิดให้ดีว่าทุนนี้แมทช์กับธุรกิจของเรามากน้อยขนาดไหน เพราะไม่งั้นถ้าได้ทุนไปแล้ว เราจะทำอะไรที่เยอะแยะไปหมด ดังนั้นต้องมี vision ที่ชัดเจนนะครับว่าธุรกิจจะไปในทิศทางไหน จะจัดสรรเงินทุนตรงนี้ยังไงให้มันดีที่สุด และที่สำคัญคือก็ต้องศึกษาเตรียมตัวดี ๆ ว่ากระบวนการต่าง ๆ เป็นยังไง การเบิกใช้เอกสารและระยะเวลาเท่าไหร่ ต้องเตรียม cash flow ไว้ประมาณไหน เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินการไปได้ตามแผนที่ตั้งไว้ ไม่ติดขัดและปิดโครงได้อย่างราบรื่นครับ”
.
#TEDFund #TEDYouthStartUp #TedMarketScalingUp #TEDFellow #StartUp #Horganice