วิธีการเก็บเงินหอพัก จ่ายก่อนอยู่ VS อยู่ก่อนจ่าย ข้อดี-ข้อเสียเป็นอย่างไร?
สำหรับการทำธุรกิจหอพัก ธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ในปัจจุบัน ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะมีธุรกิจเหล่านี้เกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก บางที่ต้องทนทำทั้งๆ ที่ขาดทุนหรือได้กำไรเพียงน้อยนิด ดังนั้นการทำการตลาด การบริหารจัดการ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนให้ธุรกิจหอพักอยู่รอด
ซึ่งการบริหารจัดการก็ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการของแต่ละที่ ว่ามีการบริหารอย่างไร มีการตลาดเพื่อดึงดูผู้เช่าอย่างไร ตอนนี้มีธุรกิจหอพักหลายแห่ง นำการตลาด “อยู่ก่อนจ่าย” มาใช้เพื่อดึงดูดผู้เช่า ซึ่งมาดูกันว่าจริงๆ แล้ว การให้ผู้เช่า “อยู่ก่อนจ่าย” ดีจริงๆ หรือไม่ แล้ว ระหว่าง จ่ายก่อนอยู่ กับ อยู่ก่อนจ่ายมีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
ก่อนเช่าหอพัก ต้องเตรียมเงินจ่ายค่าอะไรบ้าง?
- ค่ามัดจำหรือค่าจอง
ถือเป็นเงินก้อนแรกที่ผู้เช่าจะต้องจ่ายให้กับผู้ประกอบการ เป็นเงินมัดจำหรือทำการจองว่าจะเช่าห้องนี้จริง ซึ่งหอพักส่วนใหญ่จะใช้เป็นค่าเช่าล่วงหน้าไปเลย ระยะสัญญาการเช่าหอพักส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1 ปีขึ้นไป
- ค่าประกันความเสียหาย
เป็นเงินมัดจำอีกรูปแบบหนึ่ง แต่เป็นส่วนของการประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่ผู้เช่าอาศัยอยู่ โดยผู้เช่าจะต้องจ่ายหลังจากที่เซ็นสัญญาเช่าเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อหมดสัญญาผู้ประกอบการจะต้องคืนเงินส่วนนี้ให้แก่ผู้เช่าเต็มจำนวนหากไม่เกิดความเสียหายใดๆ ซึ่งภาครัฐก็ได้ออกกฎหมายใหม่ว่าผู้ประกอบการจะต้องคืนเงินก้อนนี้ให้กับผู้เช่าภายใน 7 วัน หลังจากหมดสัญญาเช่า แต่หากเกิดความเสียหายผู้ประกอบการสามารถยึดหรือหักค่าเสียหายจากเงินส่วนนี้ได้
- ค่าเช่าล่วงหน้า
เป็นเงินค่าเช่าที่ผู้เช่าต้องจ่ายให้กับผู้ประกอบการ ตามราคาเช่าจริง ส่วนจะต้องจ่ายล่วงหน้ากี่เดือนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงที่พูดคุยกันไว้ แต่เมื่อปี 2561 ภาครัฐได้ออกกฎหมายใหม่ให้เก็บค่าเช่าล่วงหน้าได้ไม่เกินหนึ่งเดือน เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค
ต้องแยกก่อนว่า ค่าเช่าล่วงหน้ากับเงินประกันเป็นคนละส่วนกัน เวลาทำสัญญาผู้ประกอบการต้องระบุให้จัดเจน
จ่ายก่อนอยู่ VS อยู่ก่อนจ่าย
จ่ายก่อนอยู่
ข้อดี : ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าผู้เช่าจะเช่าจริง มีกำลังในการจ่ายค่าเช่าในแต่ละเดือนได้
ข้อเสีย : ผู้เช่าต้องใช้เงินก้อนในการจ่าย ซึ่งถ้าผู้เช่าไม่พร้อมก็จะไม่สามารถเช่าได้ ทำให้ผู้ประกอบการพลาดผู้เช่ารายนี้ไป
อยู่ก่อนจ่าย
ข้อดี : เป็นตัวช่วยในการดึงดูดผู้เช่า ให้เข้ามาเช่ามากขึ้น
ข้อเสีย : ผู้ประกอบการมีสิทธิ์โดนหลอก หรือโกงได้ เพราะไม่มีอะไรเป็นสิ่งประกันได้ว่าผู้เช่าจะเช่าจริง และผู้เช่ามีกำลังในการจ่ายค่าเช่าทุกๆ เดือน
จริงๆ แล้วการจ่ายค่าเช่าทั้งสองรูปแบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการเองว่าจะเลือกแบบไหน แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็ควรศึกษาให้ดีเสียก่อน มิฉะนั้นอาจได้ไม่คุ้มเสีย
แต่ถ้าผู้ประกอบการท่านใดมีปัญหาในการบริหารธุรกิจหอพัก Horganice ช่วยคุณได้ ตัวช่วยที่จะทำให้การบริหารธุรกิจหอพักเป็นไปอย่างมีระบบ สามารถวิเคราะห์กำไร–ขาดทุน และผลคาดการณ์ผลประกอบการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างแม่นยำ สะดวกสบายทั้งผู้เช่าและผู้ประกอบการ ทำให้การบริหารกลายเป็นเรื่องง่าย ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป